
เครื่องดนตรีที่ใช้ในโยธวาทิต
วงดุริยางค์ หรือ วงโยธวาทิต วงดนตรีที่ใช้ทางการทหาร เครื่องดนตรี วง ดุริยางค์ มี อะไร บ้าง โดยคำว่า “โยธวาทิต” มาจากคำว่า “โยธา” แปลว่า พลรบ,ทหาร คำว่า ” วาทิต” แปลว่า ดนตรี ผู้บรรเลง วง ดุริยางค์ คือ วงโยธวาทิต ส่วนมากจะเป็นเพลงประกอบ การเดินเข้าสู่สนามรบของทหาร บทบรรเลงส่วนใหญ่ จะเป็นเพลงจังหวะมาร์ช (March) เพื่อให้เกิดขวัญ และ กำลังใจแก่ทหาร นอกจากนี้ยังใช้บรรเลงในพิธีฝังศพ เพื่อเป็นแสดงถึงเกียรติยศแก่ทหาร ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนการบรรเลง ในพิธีเข้าร่วมทางการทหาร ในการบรรเลงเพลง ของวงโยธวาธิตในสมัยก่อนนั้น จะใช้เสียงแตรเป็นหลัก เครื่องดนตรีวงดุริยางค์ เสียงแตรที่เป่า จะเป็นสัญญาณบอกให้ทราบ ว่าทหารต้องทำกิจกรรมอะไร เช่น เพลงเดิน เพลงรุก เพลงรบ เพลงถอย ฯลฯ ซึ่งทหารแต่ละกอง ก็จะใช้กลุ่มเครื่องดนตรี ทีแตกต่างกันออกไป
เครื่องดนตรี วง ดุริยางค์ มี อะไร บ้าง ประเภทของเครื่องดนตรีที่ใช้ใน เครื่องวงโย มี 3 ประเภท ดังนี้
1.เครื่องเป่าลมไม้ (woodwind instruments) ได้แก่
- ปิคโคโล (piccolo) เป็นขลุ่ยขนาดเล็ก มีลักษณะเช่นเดียวกับฟลูต เครื่องดนตรีในวงดุริยางค์ แต่เล็กกว่า ทำมาจากไม้ หรือ อีบอร์ไนท์ แต่ปัจจุบันทำด้วยโลหะ ยาวประมาณ 12 นิ้ว เสียงเล็กแหลมชัดเจน แม้ว่าจะเป่าเพียง เครื่องเดียว พิคโคโลเล่นได้ดีเป็นพิเศษโดยเฉพาะการทำเสียงรัว (Trillo) และการบรรเลงเดี่ยว (Solo)
- โอโบ (oboe) โบ เป่า ลม เป็นปี่ลิ้นคู่ที่เก่าแก่ที่สุด ชาวอียิปต์โบราณ ได้เคยใช้ปี่ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับปี่โอโบ เมื่อประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสตกาลมาแล้ว ชาวกรีกและชาวโรมันโบราณมีปี่ลิ้นคู่ชนิดหนึ่งเรียกว่า “ออโรส” (Aulos) โอโบลำตัวยาวประมาณ 5 นิ้ว เป็นรูปทรงกรวยทำด้วยไม้หรืออีบอไนท์ ส่วนลิ้นคู่นั้นทำจากไม้ที่ลำต้นมีข้อและปล้องจำพวก้ขึ้นในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ลิ้นของปี่โอโบได้รับการผลิตอย่างปราณีตมาแล้วจากโรงงาน ผู้เล่นส่วนมากนิยมนำมา ตกแต่งเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับริมฝีปากของตนเอง
- บาสซูน (bassoon) เป็นปี่ขนาดใหญ่ใช้ลิ้นคู่เช่นเดียวกับโอโบ รูปร่างของบาสซูนค่อนข้างจะประหลาดกว่าปี่ชนิดอื่น ๆ ได้รับฉายาว่าเป็น “ตัวตลกของวงออร์เคสตรา” (The Clown of the Orchestra) ทั้งนี้เพราะเวลาบรรเลงเสียงสั้น ๆ ห้วน ๆ (Staccato) อย่างเร็ว ๆ จะมีเสียงดัง ปูด ปู๊ด คล้ายลักษณะ ท่าทางของตัวตลก ที่มีอากัปกริยากระโดดเต้นหยอง ๆ ในโรงละครสัตว์
- คลาริเน็ต (clarinet) เป็นเครื่องดนตรี ที่รู้จักกันแพร่หลาย กว่าเครื่องอื่น ๆ วงโยมีเครื่องดนตรีอะไรบ้าง ในบรรดาเครื่องลมไม้ด้วยกัน คลาริเนตเป็นเครื่องดนตรี ที่ใช้ได้ในวงดนตรี เกือบทุกประเภท และ เป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญในวงออร์เคสตรา วงโยธวาทิต และวงแจ๊ส
- เบสคลาริเน็ต (bass clarinet) เป็นปี่คลาริเนตขนาดใหญ่มีช่วงเสียงต่ำกว่า คลาริเนตธรรมดา 1 ออคเทฟ ลำตัวยาวกว่าคลาริเนต ส่วนปากลำโพงทำด้วยโลหะและงอนขึ้น ส่วนที่เป่างอโค้งทำมุมกับตัวปี่ วัตถุประสงค์ของการประดิษฐ์เบสคลาริเนตขึ้นเพื่อให้มีเสียงของเครื่องดนตรีในตระกูลคลาริเนตครบทุกเสียง
- อัลโตแซกโซโฟน (Alto saxophone) เป็นแซกโซโฟนที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากเป็นแซกโซโฟนที่เป่าง่ายกว่าโซปราแซกโซโฟนและมีน้ำหนักเบากว่าเทเนอร์แซกโซโฟน อยู่ในคีย์
- เทเนอร์แซกโซโฟน (tenor saxophone) เครื่องดนตรีดุริยางค์ เป็นแซกโซโฟนที่ถูกใช้มากในการเล่นดนตรีแนวแจ็ส แต่ก็สามารถเล่นดนตรีแบบอื่น ๆ ได้ เสียงของแซกเทเนอร์จะมีลักษณะแบบนุ่ม ๆ อ้วน ๆ และ ต่ำกว่าอัลโต้(โทนเสียงที่เล่นได้จะอยู่ในโทนอัลโต้-เทนเนอร์) อยู่ในคีย์ Bb ถือเป็นเครื่องที่ใช้แทนวิโอล่าในวง ประเภทเครื่องเป่า และเหมาะที่มือใหม่ควรจะใช้ในการเริ่มต้นหัดบรรเลง
- บาริโทนแซกโซโฟน (Bariton saxophone) วงดุริยางค์ เครื่องดนตรี เป็นแซกโซโฟนที่มีขนาดใหญ่ และ มีความถี่เสียงต่ำอยู่ในคีย์Eb สามารถที่จะบรรเลงเดี่ยวได้เพราะโทนเสียงอยู่ในช่วงโทนเทนเนอร์-เบส ถือเป็นเครื่องที่ใช้แทนเชลโล่ในวงประเภทเครื่องเป่า แต่มีราคาค่อนข้างแพง และมีน้ำหนักมาก ดังนั้นบาริโทนแซกโซโฟนจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเล่นแซกโซโฟน
- ฟลูต (flute) เป็นเครื่องดนตรีสากล ประเภทเครื่องเป่าลมไม้ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องเป่าลม ประเภทอื่น ๆ ที่กำเนิดเสียงจากการสั่นสะเทือนของลิ้น ฟลูต กำเนิดเสียงจากการผิวของลม ลักษณะเสียงของฟลูตจะมีความไพเราะ นุ่มนวล อ่อนหวาน น่าฟัง
- อัลโตคลาริเน็ต (Alto clarinet) เป็นเครื่องดนตรีทรานสโพสซิงที่อยู่ในคีย์ของ E ♭แม้ว่าจะมีการสร้างเครื่องดนตรีใน F (และในศตวรรษที่ 19, E) ขนาดมันอยู่ระหว่างปี่ซอและเบสคลาริเน็ตมันมีความคล้ายคลึงกับเบสคลาริเน็ตตรงที่โดยทั่วไปแล้วจะมีลำตัวตรง (ทำจากเกรนาดิลลาหรือไม้อื่น ๆยางแข็งหรือ พลาสติก ) แต่คอโค้งและกระดิ่งทำจากโลหะ
2.เครื่องเป่าทองเหลือง (brass instruments) เครื่องดนตรีสากล ได้แก่
- ทรัมเป็ต (trumpet) ในสมัยโบราณยุโรปถือว่าทรัมเป็ตเป็น เครื่องดนตรี วง โย ของชนชั้นสูง ประชาชนสามัญไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ กำพวดของทรัมเป็ตเป็นกำพวดรูปถ้วยหรือระฆัง ทำให้ออกเสียงได้ดีทั้งเสียงต่ำและเสียงสูง เป็นท่อโลหะ ปลายบานคล้ายรูปถ้วย ท่อลม ทรัมเป็ตกลวงยาวเท่ากันปลายจะบานออกเป็นลำโพง ทรัมเป็ตมีลูกสูบ 3 สูบ สำหรับใช้เปลี่ยนความยาวของท่อลม
- คอร์เน็ต (cronet) คอร์เนตคือเครื่องเป่าทองเหลือง ที่มีลักษณะคล้ายกับทรัมเป็ต แต่ลำตัวสั้นกว่า ถูกนำมาใช้ใน วงออร์เคสตรา ครั้งแรกประมาณ ค.ศ. 1829 ในการแสดงโอเปร่าของ Rossini เรื่อง William Tell ในปัจจุบันคอร์เน็ตเป็นเครื่องดนตรีสำคัญสำหรับวงโยธวาทิตและแตรวง
- ทรอมโบน (trombone) เครื่องลมทองเหลืองมีคันชักโค้งเป็นรูปตัวยู (U-shape) สำหรับเปลี่ยนความยาวของท่อลม ตำแหน่งของการเลื่อนคันชักจะมีอยู่ทั้งหมด 7 ตำแหน่ง ให้ระดับเสียงดนตรีต่างกันออกไป ทรอมโบนมีเสียงทุ้ม ห้าว ไม่สดใส เหมือนทรัมเป็ต
- เฟรนซ์ฮอร์น (French horn) เป็นแตรที่มีช่วงเสียงกว้างถึง 3 ออคเทฟครึ่ง มีท่อยาวประมาณ 20-25 ฟุต แต่นำมาขดเป็นวงโค้งไปมา เพื่อให้สะดวกแก่ผู้เป่าจนเหลือความยาวจากปากเป่าถึงปากลำโพงเพียง 20 นิ้ว เสียงของเฟรนซ์ฮอร์น มีความสดใส สง่า จัดได้ว่าเป็นพระเอกในบรรดาเครื่องลมทองเหลือง
- บาริโทน (baritone) เป็นโทนเสียงกลางของนักร้องชาย โดยกายภาพ เวลาร้องจะตัวโน้ตจะไต่ไปคงที่ที่โน้ต มี (E) โดยไม่เกิดอาการระคายคอ ซึ่งหากนักร้องได้รับการฝึกฝนเส้นเสียงเป็นอย่างดี จะสามารถไต่ระดับไปได้ถึงตัว ซอล (G) มิดเดิลออกเตฟ
- ยูโฟเนียม (euphonium) ยูโฟเนียมมาจากภาษา กรีกหมายถึง “เสียงดี” เสียงของยูโฟเนียมจะนุ่มนวล ทุ้มลึก และมีความหนักแน่นมาก สามารถเล่นในระดับเสียงต่ำได้ดีบางครั้งนำไปใช้บรรเลงในวงออร์เคสตราแทนทูบา
- ทูบา (tuba) เป็นเครื่องดนตรีตระกูลแซกฮอร์น พัฒนาการมาจากการเป่าเขาสัตว์และการเป่าสังข์ เสียงของทูบาต่ำลึกนุ่มนวล ไม่แตกพร่า เสียงต่ำมากที่เรียกว่า “เพดัลโทน” (Pedal tones) นั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ปกติทูบาทำหน้าที่เป็นแนวเบส ให้แก่กลุ่มเครื่องลมทองเหลือง
- ซูซาโฟน (susaphone)เป็น เครื่องดนตรีสากล ที่ จอห์น ฟิลิป ซูซา (Johe Philip Sousa,1854-1932)ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้แทนทูบา เพื่อให้ง่ายแก่การเดินสนาม สุ้มเสียงของซูซาโฟน มีเสียงแบบเดียวกับทูบา ฉะนั้นจึงใช้แทนกันได้ แต่มีลักษณะพันรอบตัว และ มีน้ำหนักมากกว่าทูบา
3.เครื่องกระทบ (percussion instruments) กลอง ดุริยางค์ ได้แก่
- กลองเล็ก (snare drum or side drum) มี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง ลักษณะเฉพาะก็คือ หน้ากลองด้านล่าง ขึงคาดไว้ด้วยสายสะแหน่ทำด้วยเอ็นสัตว์
- กลองเทเนอร์ (Tenor drum) เป็นกลองที่จำเป็นต้องใช้ในวงดุริยางค์ จะมีขนาดความกว้าง 14 นิ้ว และมีหลักยึดหนังกลอง 6 หลัก Lunar เพื่อลูกค้าได้เลือกรุ่นให้ตรงตามการใช้งานที่สุด Lunar ออกแบบให้กลองเทนเนอร์มีความลึกของตัวถังกลองที่ 12 นิ้ว
- กลองใหญ่ (bass drum) มี 2 หน้าขึงด้วยหนังกลอง กลองใหญ่ที่ใช้ในวงออร์เคสตราจะมีขนาดใหญ่กว่า 32 นิ้ว ถ้าใช้ในวงโยธวาทิตจะมีขนาดตั้งแต่ 24-32
- ฉาบ (cymbals) มีหลายลักษณะ บางชนิดใช้ตีเป็นคู่ให้เกิดเสียง ฉาบบางชนิดใช้เพียงข้างเดียว ตีด้วยไม้ตี ฉาบ ประเภทนี้ต้องติดตั้งบนขาตั้ง เช่นฉาบสำหรับกลองชุด ฉาบมีหลายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมาก ก็จะทำ ให้เกิดเสียงดัง และ ความก้องกังวานมากขึ้นด้วย
- ไซโลโฟน (xylophone) เป็นระนาดไม้ขนาดเล็กของดนตรีตะวันตก ลักษณะทั่วไปคล้ายกับมาริมบาหรือไวบราโฟน ลูกระนาดทำด้วยไม้เนื้อแข็งจัดเรียงลำดับเสียงตามบันไดเสียงโครมาติก (Chromatic) เช่นเดียวกับเปียโนหรือออร์แกน ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะติดอยู่เพื่อเป็นตัวขยายเสียงประกอบด้วย 2 ขนาด
- กลอกเคินสปีล (gockenspiel) เป็นเครื่องดนตรีที่รูปร่างคล้ายไซโลโฟนแต่มีขนาดเล็กกว่า ลูกระนาดเป็นแผ่นเหล็ก ไม้ตีเรียกว่า Mallet มีหัวตีทำด้วยวัสดุต่างๆ กัน เช่น ไม้ ยาง โลหะ กล็อคเคนสปิลเหมาะที่จะเล่นเสียงสูง เพราะมีเสียงใสกังวานคล้ายระฆังเล็กๆ สำหรับในวงโยธวาทิต วงเมโลเดียน และแตรวง เป็นเครื่องดนตรีที่หมวดหมู่ เบลไลร่า แต่คนมักนิยมเรียกว่า กล็อคเคนสปิล แยกออกมาต่างหาก
- ไทรเองเกิล (triangle) ทำด้วยแท่งโลหะ ดัดให้เป็นรูปสามเหลี่ยม แท่งโลหะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซ.ม. เพื่อให้เสียงดังกังวานต้องแขวนไว้กับเชือกแล้วตีกระทบด้วยแท่งโลหะ ลักษณะเสียงของไทรแองเกิล จะแจ่มใสมีชีวิตชีวา
- กลองทอมบา (tomba) เป็นกลองประเภทตีด้วยมือหรือ ไม้กลอง มีขนาดใหญ่กว่ากลองบองโก้ หนังกลองนิยมใช้หนังวัวแท้มาผลิต เสียงจะดังกังวานกว่าหนังแบบอื่น กลอง ดุริยางค์ ใช้เชียร์กีฬาสีโรงเรียน งานเลี่ยงสังสรรค์ งานสันทนาการต่างๆ
- กลองทิมปานี (timpani) เป็นกลองที่ปรับระดับเสียงได้ มีรูปร่างคล้ายกระทะ หรือ กาต้มน้ำ ตั้งอยู่บนฐาน ตัวกลองทำด้วยทองแดง ใช้หนังลูกวัวขึง มีสกรูอยู่รอบๆ ขอบกลอง เพื่อใช้บังคับหนังกลอง ให้ตึงมากน้อยให้เกิดระดับเสียงที่ต้องการ
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจได้ที่ : https://เครื่องดนตรีไทย.com